1.กระตุ้นการออกดอก – มีฟอสฟอรัส (P) สูงถึง 24% ช่วยเร่งการสร้างตาดอก ลดปัญหาดอกร่วง และทำให้ดอกสมบูรณ์
2.ช่วยติดผลและเพิ่มคุณภาพผลผลิต – ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมช่วยให้พืชผสมเกสรดีขึ้น ลดการหลุดร่วงของผลอ่อน
3.เสริมสร้างขนาดและความแข็งแรงของผล – โพแทสเซียม (K) 24% ช่วยเพิ่มขนาดผล ทำให้ผลมีเนื้อแน่น และลดปัญหาผลแตก
4.เพิ่มความหวาน สี และรสชาติของผลไม้ – ส่งเสริมกระบวนการสะสมแป้งและน้ำตาล ทำให้ผลไม้มีคุณภาพสูงขึ้น
5.ช่วยให้ผลผลิตเก็บรักษาได้นานขึ้น – ทำให้เปลือกแข็งแรง ลดการเสียหายจากการขนส่งและยืดอายุการเก็บรักษา
6.เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการบำรุงผล – เช่น ทุเรียน มะม่วง องุ่น ส้ม พืชตระกูลแตง และพืชหัว เช่น มันสำปะหลัง มันฝรั่ง
7.ใช้ในช่วงที่เหมาะสม – ควรให้ก่อนออกดอกไปจนถึงระยะพัฒนาผล เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารตรงกับความต้องการ
8.สามารถใช้ร่วมกับธาตุอาหารเสริม – เช่น แคลเซียม-โบรอน เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพของดอกและผลให้ดียิ่งขึ้น
9.ลดการแตกใบมากเกินไป – เนื่องจากมีไนโตรเจนต่ำ (N 4%) จึงไม่กระตุ้นการเจริญเติบโตของใบจนไปรบกวนกระบวนการออกดอก